อารยธรรมอินเดีย
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. อธิบายอารยธรรมอินเดียยุคต่างๆ
2. วิเคราะห์พัฒนาการด้านการเมืองการปกครองของอินเดียตั้งแต่สมัยโบราณจนได้รับเอกราชจากอังกฤษได้
3. อธิบายลักษณะศิลปวัฒนธรรมด้านต่างๆของอารยธรรมอินเดียได้
4. ยกตัวอย่างอารยธรรมอินเดียในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ใด้
อินเดียเป็นแหล่งอารยธรรมที่เก่าแก่แห่งหนึ่งของโลก
บางทีเรียกว่า แหล่งอารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุ อาจแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ของอินเดียได้ดังนี้
- สมัยก่อนประวัติศาสตร์ พบหลักฐานเป็นซากเมืองโบราณ
2 แห่งในบริเวณลุ่มแม่น้ำสินธุ คือ
- เมืองโมเฮนโจดาโร ทางตอนใต้ของประเทศปากีสถาน
- เมืองฮารับปา ในแคว้นปันจาป
ประเทศปากีสถานในปัจจุบัน
- สมัยประวัติศาสตร์ เริ่มเมื่อมีการประดิษฐ์ตัวอักษรขึ้นใช้
โดยชนเผ่าอินโด-อารยัน ซึ่งตั้งถิ่นฐานบริเวณแม่น้ำคงคา แบ่งได้ 3 ยุค
- ประวัติศาสตร์สมัยโบราณ เริ่มตั้งแต่กำเนิดตัวอักษร บรามิ ลิปิ สิ้นสุดสมัยราชวงศ์
คุปตะ เป็นยุคที่ศาสนาพราหมณ์ ฮินดู และพุทธศาสนา ได้ถือกำเนิดแล้ว
- ประวัติศาสตร์สมัยกลาง เริ่มตั้งแต่ราชวงศ์คุปตะสิ้นสุดลง
จนถึง ราชวงศ์โมกุลเข้าปกครองอินเดีย
- ประวัติศาสตร์สมัยใหม่ เริ่มตั้งแต่ราชวงศ์โมกุลจนถึงการได้รับเอกราชจากอังกฤษ
|
|
เมืองฮารับปา
สุสานทัชมาฮาล
ตรีมูระติ เทพเจ้าของอินเดีย
แม่น้ำเนรัญชรา เมื่อยามแห้งแล้ง
อีกมุมมองหนึ่งของสุสานทัชมาฮาล
พระพุทธรูปแบบอมราวดี
พระพุทธรูปแบบคันธาระ
พระพุทธรูปแบบมถุรา
ภาพจิตรกรรมบนผนังถ้ำอชันตะ
|
อารยธรรมอินเดีย
- อารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุ
- เป็นอารยธรรมของชนพื้นเมืองเผ่าดราวิเดียน
- ศูนย์กลางอยู่ที่เมือง โมเฮนโจดาโร
และเมืองฮารับปา
- สมัยพระเวท
- เป็นอารยธรรมชนเผ่าอารยัน ที่เข้ายึดครองดราวิเดียนหรือชาวทราวิฑที่ถูกขับไล่ให้ถอยร่นลงทางใต้
- ชาวอารยันให้กำเนิดศาสนาพราหมณ์ และ
ระบบวรรณะ 4
- วรรณกรรมสำคัญในยุคนี้ ได้แก่
- คัมภีร์พระเวท เป็นบทสวดของพวกพราหมณ์
ใช้วิธีท่องจำต่อๆกันมา ประกอบด้วย 4
คัมภีร์คือ ฤคเวท ยชุรเวท ไตรเวท และ อาถรรพเวท
- มหากาพย์รามายณะ
สันนิษฐานว่าแสดงถึงการต่อสู้ระหว่างชาวอารยัน(พระราม) กับชาวทราวิฑ
(ทศกัณฑ์) แต่งโดยฤษีวาลมิกิ
- มหากาพย์มหาภารตยุทธ
ว่าด้วยการต่อสู้ของพี่น้องสองตระกูล (ปานฑพ-เการพ)
- คัมภีร์ธรรมศาสตร์ ซึ่งเป็นทั้งกฎหมาย
ศาสนบัญญัติ จารีตประเพณี หลักศีลธรรม
- สมัยพุทธกาล
- เกิดศาสนาพุทธ และมีการใช้ภาษาบาลี (มคธ)
- เกิดศาสนาเชน ผู้ก่อตั้งคือ วรรธมาน
มหาวีระ
- สมัยราชวงศ์เมารยะ
- พระเจ้าจันทรคุปต์
ได้รวบรวมแว่นแคว้นในดินแดนชมพูทวีปให้เป็นปึกแผ่น
- เริ่มการปกครองโดยรวบอำนาจไว้ที่กษัตริย์และเมืองหลวง
- พระเจ้าอโศกมหาราช
ส่งสมทูตไปเผยแผ่พุทธศาสนาในแว่นแคว้นต่างๆ
- หลังราชวงศ์เมารยะล่มสลาย
เกิดการแตกแยกเป็นแว่นแคว้น
- สมัยราชวงศ์กุษาณะ
- พวกกุษาณะเป็นชนต่างชาติที่เข้ามารุกราน
และตั้งอาณาจักรปกครองอินเดียทางตอนเหนือ
- ด้านการแพทย์เจริญมากในสมัยพระเจ้ากนิษกะ
- ส่งสมทูตไปเผยแผ่พุทธศาสนานิกายมหายานที่จีนและธิเบต
- สมัยราชวงศ์คุปตะ
- พระเจ้าจันทรคุปต์ที่ 1 ทรงรวบรวมอินเดียให้เป็นจักรวรรดิอีกครั้งหนึ่ง
- เป็นยุคทองของอินเดียทั้งด้านศิลปวัฒนธรรม
การเมือง ปรัชญา ศาสนา
- สมัยจักรวรรดิโมกุล
- พระเจ้าบาบูร์ ผู้ก่อตั้งราชวงศ์โมกุล นับถือศาสนาอิสลาม
- เป็นราชวงศ์สุดท้ายของอินเดีย
- พระเจ้าอักบาร์มหาราช ทรงทะนุบำรุงอินเดียให้มีความเจริญรุ่งเรืองทุกด้าน
และทรงให้เสรีภาพในการนับถือศาสนา สร้างสามัคคีให้เกิดขึ้นในชาติ
- พระเจ้าซาร์ เจฮัน ทรงเป็นมุสลิมที่เคร่งครัดและศรัทธาในศาสนาอิสลาม
เป็นผู้สร้าง ทัชมาฮาล ที่มีความงดงามยิ่ง
- สมัยอาณานิคมอังกฤษ
- ปลายสมัยอาณาจักรโมกุล
กษัตริย์ทรงใช้จ่ายฟุ่มเฟือย
ต้องเพิ่มภาษีและเพิ่มการเกณฑ์แรงงานทำให้ราษฎรอดอยาก
และยังกดขี่ทำลายล้างศาสนาฮินดูและชาวฮินดูอย่างรุนแรง
- เกิดความแตกแยกภายในชาติ
เป็นเหตุให้อังกฤษค่อยๆเข้าแทรกแซงและครอบครองอินเดียทีละเล็กละน้อย
- ในที่สุดอังกฤษล้มราชวงศ์โมกุลและครอบครองอินเดียในฐานะอาณานิคมอังกฤษ
- สิ่งที่อังกฤษวางไว้ให้กับอินเดียคือ
- รากฐานการปกครองระบอบประชาธิปไตย
แบบรัฐสภา
- การศาล การศึกษา
- ยกเลิกประเพณีบางอย่าง เช่น พิธีสตี
(การเผาตัวตายของหญิงฮินดูที่สามีตาย)
- สมัยเอกราช
- หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ขบวนการชาตินิยมอินเดียนำโดย
มหาตมะ คานธี และ เยาวราลห์ เนห์รู เป็นผู้นำเรียกร้องเอกราช
- มหาตมะ คานธี ใช้หลักอหิงสา
(ความไม่เบียดเบียน ความสงบ) ในการเรียกร้องเอกราชจนประสบความสำเร็จ
- หลังจากได้รับเอกราชอินเดียปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย
- แต่จากความแตกแยกทางเชื้อชาติและศาสนาทำให้อินเดียต้องแตกแยกเป็นอีก
2 ประเทศคือ
ปากีสถาน(เดิมคือปากีสถานตะวันตก)และบังคลาเทศ (ปากีสถานตะวันออก)
|
|
ศิลปกรรมอินเดีย มักเกี่ยวข้องกับความเชื่อทางศาสนา
- ด้านสถาปัตยกรรม
- ซากเมืองฮารับปาและโมเฮนโจดาโร ทำให้เห็นว่ามีการวางผังเมืองอย่างดี
มีสาธารณูประโภคอำนวยความสะดวกหลายอย่าง เช่น ถนน บ่อน้ำ ประปา
ซึ่งเน้นประโยชน์ใช้สอยมากกว่าความสวยงาม
- ซากพระราชวังที่เมืองปาฏลีบุตรและตักศิลา
สถูปและเสาแปดเหลี่ยม ที่สำคัญคือ สถูปเมืองสาญจี (สมัยราชวงศ์โมริยะ)
- สุสานทัชมาฮาล สร้างด้วยหินอ่อน
เป็นการผสมระหว่างศิลปะอินเดียและเปอร์เชีย
ศิลปกรรมอินเดีย มักเกี่ยวข้องกับความเชื่อทางศาสนา
- ด้านสถาปัตยกรรม
- ซากเมืองฮารับปาและโมเฮนโจดาโร
ทำให้เห็นว่ามีการวางผังเมืองอย่างดี
มีสาธารณูประโภคอำนวยความสะดวกหลายอย่าง เช่น ถนน บ่อน้ำ ประปา ซึ่งเน้นประโยชน์ใช้สอยมากกว่าความสวยงาม
- ซากพระราชวังที่เมืองปาฏลีบุตรและตักศิลา
สถูปและเสาแปดเหลี่ยม ที่สำคัญคือ สถูปเมืองสาญจี (สมัยราชวงศ์โมริยะ)
- สุสานทัชมาฮาล สร้างด้วยหินอ่อน
เป็นการผสมระหว่างศิลปะอินเดียและเปอร์เชีย
|
|
- ด้านประติมากรรม เกี่ยวข้องกับศาสนา
- พระพุทธรูปแบบคันธาระ
- พระพุทธรูปแบบมถุรา
- พระพุทธรูปแบบอมราวดี
- ภาพสลักนูนที่มหาพลิปุลัม
ได้รับการยกย่องว่ามหัศจรรย์
- ด้านประติมากรรม เกี่ยวข้องกับศาสนา
- พระพุทธรูปแบบคันธาระ
-พระพุทธรูปแบบมถุรา
-พระพุทธรูปแบบอมราวดี
-ภาพสลักนูนที่มหาพลิปุลัม
ได้รับการยกย่องว่ามหัศจรรย์
- จิตรกรรม
- สมัยคุปตะ และหลังสมัยคุปตะ
เป็นสมัยที่รุ่งเรืองที่สุดของอินเดียพบงานจิตรกรรมที่ ผนังถ้ำอชันตะ เป็นภาพเขียนในพระพุทธศาสนาแสดงถึงชาดกต่างๆ
ที่งดงามมาก ความสามารถในการวาดเส้นและการอาศัยเงามืดบริเวณขอบภาพ
ทำให้ภาพแลดูเคลื่อนไหว ให้ความรู้สึกสมจริง
- นาฏศิลป์
- เกี่ยวกับการฟ้อนรำ
เป็นส่วนหนึ่งของพิธีกรรมเพื่อบูชาเทพเจ้าตามคัมภีร์พระเวท
ทสวดสรรเสริญเทพเจ้าทั้งหลาย
ถือเป็นแบบแผนการร้องที่เก่าแก่ที่สุดใน สังคีตศิลป์ของอินเดีย แบ่งเป็นดนตรีศาสนา
ดนตรีในราชสำนักและดนตรีท้องถิ่นเครื่องดนตรีสำคัญ คือ วีณา หรือพิณ ใช้สำหรับดีด เวณุ หรือขลุ่ย และกลอง
การแพร่ขยายและการถ่ายทอดอารยธรรมอินเดีย
อารยธรรมอินเดีย
แพร่ขยายออกไปสู่ภูมิภาคต่างๆทั่วทวีปเอเชีย โดยผ่านทางการค้า ศาสนา การเมือง
การทหาร และได้ผสมผสานเข้ากับอารยธรรมของแต่ละประเทศจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของอารยธรรมสังคมนั้นๆ
ในเอเชียตะวันออก
พระพุทธศาสนามหายานของอินเดียมีอิทธิพลอย่างลึกซึ้งต่อชาวจีนทั้งในฐานะศาสนาสำคัญ
และในฐานะที่มีอิทธิพลต่อการสร้างสรรค์ศิลปะของจีน
ภูมิภาคเอเชียกลาง อารยธรรมอินเดียที่ถ่ายทอดให้เริ่มตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่
7 เมื่อพวกมุสลิมอาหรับ
ซึ่งมีอำนาจในตะวันออกกลางนำวิทยาการหลายอย่างของอินเดียไปใช้ ได้แก่ การแพทย์
คณิตศาสตร์ ดาราศาสตร์ เป็นต้น
ขณะเดียวกันอินเดียก็รับอารยธรรมบางอย่างทั้งของเปอร์เชียและกรีก โดยเฉพาะด้านศิลปกรรม
ประติมากรรม เช่น พระพุทธรูปศิลปะคันธาระซึ่งเป็นอิทธิพลจากกรีก
ส่วนอิทธิพลของเปอร์เชีย ปรากฏในรูปการปกครอง สถาปัตยกรรม เช่น พระราชวัง
การเจาะภูเขาเป็นถ้ำเพื่อสร้างศาสนสถาน
ภูมิภาคที่ปรากฏอิทธิพลของอารยธรรมอินเดียมากที่สุดคือ
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พ่อค้า พราหมณ์
และภิกษุสงฆ์ชาวอินเดียเดินทางมาและนำอารยธรรมมาเผยแพร่
อารยธรรมที่ปรากฏอยู่มีแทบทุกด้าน โดยเฉพาะในด้านศาสนา ความเชื่อ การปกครอง
ศาสนาพราหมณ์ ฮินดู และพุทธ ได้หล่อหลอมจนกลายเป็นรากฐานสำคัญที่สุดขอ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น