อารยธรรมจีน
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. อธิบายลักษณะอารยธรรมจีนในสมัยราชวงศ์ต่างๆ
ได้
2. วิเคราะห์เหตุการณ์สำคัญที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านการเมืองการปกครองเศรษฐกิจและสังคมของจีนได้
3. วิเคราะห์แนวคิดที่มีอิทธิพลต่อการดำเนินชีวิตของจีนได้
อารยธรรมจีน
ประเทศจีนเป็นประเทศที่มีอารยธรรมยาวนานที่สุดประเทศหนึ่ง
โดยหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ สามารถค้นคว้าได้บ่งชี้ว่าอารยธรรมจีนมีอายุถึง 5,000
ปี รากฐานที่สำคัญของอารยธรรมจีนคือ การสร้างระบบภาษาเขียน
และการพัฒนาแนวคิดลัทธิขงจื๊อ เมื่อประมาณ ศตวรรษที่ 2 ก่อน
ค.ศ. ประวัติศาสตร์จีนมีทั้งช่วงที่เป็นปึกแผ่นและแตกเป็นหลายอาณาจักรสลับกันไป
ในบางครั้งก็ถูกปกครองโดยชนชาติอื่น
วัฒนธรรมของจีนมีอิทธิพลอย่างสูงต่อชาติอื่นๆ ในทวีปเอเชีย
ซึ่งถ่ายทอดไปทั้งการอพยพ การค้า และการยึดครอง
|
อารยธรรมจีนสมัยก่อนประวัติศาสตร์ มีแหล่งอารยธรรมที่สำคัญ 2 แหล่ง คือ
|
|
เครื่องปันดินเผาหยางเชา
เครื่องปั้นดินเผาหลงซาน
อักษรจีนจารึกบนกระดองเต่า
จารึกอักษรบนกระดองเต่า
จิ๋นซีฮ่องเต้
กำแพงเมืองจีน
ทหารจีนตุ๊กตาดินเผา
ภายในสุสานสมัยจิ๋นซีฮ่องเต้ มณฑลซีอาน
|
- ลุ่มแม่น้ำฮวงโห พบความเจริญที่เรียกว่า วัฒนธรรมหยางเชา ( Yang
Shao Culture ) พบหลักฐานที่เป็นเครื่องปั้นดินเผามีลักษณะสำคัญคือ
เครื่องปั้นดินเผาเป็นลายเขียนสี มักเป็นลายเรขาคณิต พืช นก สัตว์ต่างๆ
และพบใบหน้ามนุษย์ สีที่ใช้เป็นสีดำหรือสีม่วงเข้ม
นอกจากนี้ยังมีการพิมพ์ลายหรือขูดสลักลายเป็นรูปลายจักสาน ลายเชือกทาบ
- ลุ่มน้ำแยงซี (
Yangtze ) บริเวณมณฑลชานตุงพบ วัฒนธรรมหลงซาน (
Lung Shan Culture ) พบหลักฐานที่เป็นเครื่องปั้นดินเผามีลักษณะสำคัญคือ
เครื่องปั้นดินเผามีเนื้อละเอียดสีดำขัดมันเงา คุณภาพดีเนื้อบางและแกร่ง
เป็นภาชนะ 3 ขา
|
|
สมัยประวัติศาสตร์ของจีนแบ่งได้ 4
ยุค
|
|
- ประวัติศาสตร์สมัยโบราณ
เริ่มตั้งแต่สมัยราชวงศ์ชาง สิ้นสุดสมัยราชวงศ์โจว
- ประวัติศาสตร์สมัยจักรวรรดิ
เริ่มตั้งแต่สมัยราชวงศ์จิ๋น จนถึงปลายราชวงศ์ชิงหรือเช็ง
- ประวัติศาสตร์สมัยใหม่
เริ่มปลายราชวงศ์เช็งจนถึงการปฏิวัติเข้าสู่ระบอบสังคมนิยม
- ประวัติศาสตร์ร่วมสมัย
เริ่มตั้งแต่จีนปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองเข้าสู่ระบอบสังคมนิยมหรือคอมมิวนิสต์จนถึงปัจจุบัน
|
|
อารยธรรมจีนในสมัยราชวงศ์ต่างๆ
มีดังนี้
|
|
- ราชวงศ์ชาง
เป็นราชวงศ์แรกของจีน
- มีการปกครองแบบนครรัฐ
- มีการประดิษฐ์ตัวอักษรขึ้นใช้เป็นครั้งแรก
พบจารึกบนกระดองเต่า และกระดูกวัว เรื่องที่จารึกส่วนใหญ่เป็นการทำนายโชคชะตาจึงเรียกว่า “กระดูกเสี่ยงทาย”
- มีความเชื่อเรื่องการบูชาบรรพบุรุษ
- ราชวงศ์โจว
- แนวความคิดด้านการปกครอง
เชื่อเรื่องกษัตริย์เป็น “โอรสแห่งสวรรค์ สวรรค์มอบอำนาจให้มาปกครองมนุษย์เรียกว่า “อาณัตแห่งสวรรค์
- เริ่มต้นยุคศักดินาของจีน
- เกิดลัทธิขงจื๊อ ที่มีแนวทาง
- เป็นแนวคิดแบบอนุรักษ์นิยม
- เน้นความสัมพันธ์และการทำหน้าที่ของผู้คนในสังคม
ระหว่างจักรพรรดิกับราษฎร บิดากับบุตร พี่ชายกับน้องชาย สามีกับภรรยา
เพื่อนกับเพื่อน
- เน้นความกตัญญู
เคารพผู้อาวุโส ให้ความสำคัญกับครอบครัว
- เน้นความสำคัญของการศึกษา
- เกิดลัทธิเต๋า โดยเล่าจื๊อ ที่มีแนวทาง
- เน้นการดำเนินชีวิตที่เรียบง่าย
ไม่ต้องมีระเบียบแบบแผนพิธีรีตองใดใด
- เน้นปรับตัวเข้าหาธรรมชาติ
- ลัทธินี้มีอิทธิพลต่อศิลปิน
กวี และจิตรกรจีน
- คำสอนทั้งสองลัทธิเป็นที่พึ่งทางใจของผู้คน
- ราชวงศ์จิ๋นหรือฉิน
- จักรพรรดิที่ยิ่งใหญ่สามารถรวมดินแดนของจีนให้เป็นจักรวรรดิ
เป็นครั้งแรกคือ พระเจ้าชิวั่งตี่
หรือ จิ๋นซีฮ่องเต้ เป็นผู้ให้สร้าง กำแพงเมืองจีน
- มีการใช้เหรียญกษาปณ์
มาตราชั่ง ตวง วัด
- ราชวงศ์ฮั่น
- เป็นยุคทองด้านการค้าของจีน
มีการค้าขายกับอาณาจักรโรมัน อาหรับ และอินเดีย
โดยเส้นทางการค้าที่เรียกว่า เส้นทางสายไหม( Silk Rood )
- ลัทธิขงจื๊อ คำสอนถูกนำมาใช้เป็นหลักในการปกครองประเทศ
- มีการสอบคัดเลือกบุคคลเข้ารับราชการเรียกว่า จอหงวน
- ราชวงศ์สุย
- เป็นยุคแตกแยกแบ่งเป็นสามก๊ก
- มีการขุดคลองเชื่อมแม่น้ำฮวงโหกับแม่น้ำแยงซี
เพื่อประโยชน์ในด้านการคมนาคม
- ราชวงศ์ถัง
- ได้ชื่อว่าเป็นยุคทองของอารยธรรมจีน
นครฉางอานเป็นศูนย์กลางของซีกโลกตะวันออกในสมัยนั้น
- พระพุทธศาสนามีความเจริญรุ่งเรือง พระภิกษุ (ถังซำจั๋ง) เดินทางไปศึกษาพระไตรปิฎก ในชมพูทวีป
- เป็นยุคทองของกวีนิพนธ์จีน
กวีคนสำคัญ เช่น หวางเหว่ย หลี่ไป๋ ตู้ฝู้
- ศิลปะแขนงต่างๆมีความรุ่งเรือง
- ราชวงศ์ซ้อง
- มีความก้าวหน้าด้านการเดินเรือสำเภา
- รู้จักการใช้เข็มทิศ
- รู้จักการใช้ลูกคิด
- ประดิษฐ์แท่นพิมพ์หนังสือ
- รักษาโรคด้วยการฝังเข็ม
- ราชวงศ์หยวน
- เป็นราชวงศ์ชาวมองโกลที่เข้ามาปกครองจีน
ฮ่องเต้องค์แรกคือ กุบไลข่าน หรือ หงวนสีโจ๊วฮ่องเต้
- ชาวตะวันตกเข้ามาติดต่อค้าขายมาก
เช่น มาร์โคโปโล พ่อค้าชาวเมืองเวนีส อิตาลี
- ราชวงศ์หมิงหรือเหม็ง
- วรรณกรรม
นิยมการเขียนนวนิยายที่ใช้ภาษาพูดมากกว่าการใช้ภาษาเขียน มีนวนิยายที่สำคัญ ได้แก่ สามก๊ก
ไซอิ๋ว
- ส่งเสริมการสำรวจเส้นทางเดินเรือทางทะเล
- สร้างพระราชวังหลวงปักกิ่ง
(วังต้องห้าม)
- ราชวงศ์ชิงหรือเช็ง
- เป็นราชวงศ์เผ่าแมนจู
เป็นยุคที่จีนเสื่อมถอยความเจริญทุกด้าน
- เริ่มถูกรุกรานจากชาติตะวันตก
เช่น สงครามฝิ่น ซึ่งจีนรบแพ้อังกฤษ ทำให้ต้องลงนามในสนธิสัญญานานกิง
- ปลายยุคราชวงศ์ชิง
พระนางซูสีไทเฮาเข้ามามีอิทธิพลในการบริหารประเทศมาก
|
|
จีนยุคสาธารณรัฐและยุคคอมมิวนิสต์
|
- ปลายยุคราชวงศ์ชิง
ดร.ซุนยัตเซ็น จัดตั้งสมาคมสันนิบาต เพื่อล้มล้างราชวงศ์ชิง โดยประกาศ ลัทธิไตรราษฎร์ ประกอบด้วย 1.หลักเอกราช 2.หลักแห่งอำนาจอธิปไตยของประชาชน
3.หลักความยุติธรรมในการครองชีพ ส่วนนโยบายปฏิวัติ
คือ โค่นล้มราชวงศ์แมนจู และจัดตั้งรัฐบาลประชาชน
จัดตั้งรัฐบาลตามระบอบสาธารณรัฐ จัดสรรที่ดินให้แก่ประชาชน
และก่อตั้งพรรคชาตินิยม หรือ
พรรคก๊กมินตั๋ง ขึ้นในที่สุด
- ต่อมา
ซุนยัตเซ็นได้ร่วมมือกับ ยวน ซีไข ทำการปฏิวัติล้มราชวงศ์ชิงได้สำเร็จเปลี่ยนการปกครองเข้าสู่ระบอบสาธารณรัฐ
(จักรพรรดิปูยี เป็นกษัตริย์องค์สุดท้ายของจีน)
มีการแย่งชิงอำนาจของผู้นำทางทหารเรียกว่า ยุคขุนศึก
- ซุนยัตเซ็นได้เสนอให้
ยวน ซีไข เป็นประธานาธิบดีของสาธารณรัฐจีน
- ยวน
ซีไข คิดสถาปนาตนเองเป็นจักรพรรดิและรื้อฟื้นระบบศักดินา
- ดร.ซุนยัตเซ็น
ตั้งพรรคก๊กมินตั๋ง
- เมื่อ
ยวน ซีไข เสียชีวิตลง ดร.ซุนยัตเซ็นเป็นประธานาธิบดี
แต่เป็นได้ไม่นานก็เสียชีวิต
- หลังจาก
ดร. ซุนยัตเซ็น เสียชีวิต เจียงไคเช็ค
ขึ้นเป็นผู้นำพรรคก๊กมินตั๋งและผู้นำจีน
- แต่รัฐบาลเจียงไคเช็ค
ประสบปัญหาฉ้อราษฎร์บังหลวง กดขี่ราษฎร
- จีนเกิดการปฏิวัติอีกครั้ง
โดยพรรคคอมมิวนิสต์จีน ภายใต้การนำของ เหมา เจ๋อตุง รัฐบาลเจียงไคเช็ค
ต่อสู้กับพรรคคอมมิวนิสต์แต่แพ้
- เหมา
เจ๋อตุง สถาปนา “สาธารณรัฐประชาชนจีน”
ปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิสต์ มีการจัดระเบียบสังคมใหม่
เรียกว่า การปฏิวัติทางวัฒนธรรม เพื่อต่อต้านจารีตศักดินาแบ่งชนชั้น
- หลังจาก
เหมา เจ๋อตุง เสียชีวิต เติ้งเสี่ยวผิงขึ้นเป็นผู้นำจีนแทน
ประกาศพัฒนาประเทศด้วย นโยบายสี่ทันสมัย คือด้านเกษตรกรรม อุตสาหกรรม การทหาร วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
โดยอนุญาตให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนภายในประเทศ รวมทั้งผ่อนปรนวิถีการดำเนินชีวิตของประชาชนให้คลายความเข้มงวดลง
|
|
อนุสาวรีย์วีรชนปฏิวัติของจีน
ประธาน
เหมา เจ๋อตุง
อนุสรณ์สถานประธานเหมา เจ๋อตุง
|
ศิลปวัฒนธรรมของจีน
|
|
ภาพวาดพระถังซำจั๋ง
เส้นทางสายไหม
พระราชวังต้องห้าม
อุทยานภายในพระราชวังฤดูร้อน
|
- จิตรกรรม
- มีวิวัฒนาการมาจากการเขียนตัวอักษรจีนจารึกบนกระดูกเสี่ยงทายเพราะตัวอักษรจีนมีลักษณะเหมือนรูปภาพ
- งานจิตรกรรมจีนรุ่งเรืองมากในสมัยราชวงศ์ฮั่น
มีการเขียนภาพและแกะสลักบนแผ่นหิน ที่นิยมมากคือ การเขียนภาพบนผ้าไหม
ภาพวาดเป็นเรื่องเล่าในตำราขงจื๊อพระพุทธศาสนาและภาพธรรมชาติ
- สมัยราชวงศ์ถัง
มีการพัฒนาการใช้พู่กันสีและกระดาษภาพส่วนใหญ่ได้รับอิทธิพลจากพุทธศาสนาและลัทธิเต๋า
- สมัยราชวงศ์ซ้อง
จิตรกรรมจัดว่าเด่นมาก ภาพวาดมักเป็นภาพมนุษย์กับธรรมชาติ ทิวทัศน์
ดอกไม้
- ประติมากรรม
- ส่วนใหญ่เป็นเครื่องปั้นดินเผามีอายุเก่าแก่ตั้งแต่ก่อนประวัติศาสตร์
ทำจากดินสีแดง มีลวดลาย แดง ดำ และขาวเป็นลวดลายเรขาคณิต
- สมัยราชวงศ์ชาง
มีการแกะสลักงาช้าง หินอ่อน และหยกตามความเชื่อและความนิยมของชาวจีน
ที่เชื่อว่า หยก ทำให้เกิดความเป็นสิริมงคล ความสุขสงบ ความรอบรู้ ความกล้าหาญ
ภาชนะสำริดเป็นหม้อสามขา
- สมัยราชวงศ์ถัง
มีการพัฒนาเครื่องเคลือบดินเผาเป็นเคลือบ 3 สีคือ เหลือง น้ำเงิน เขียว ส่วนสีเขียวไข่กามีชื่อเสียงมากในสมัยราชวงศ์ซ้อง ส่วนพระพุทธรูปนิยมสร้างในสมัยราชวงศ์ถัง ทั้งงานหล่อสำริดและแกะสลักจากหิน ซึ่งมีสัดส่วนงดงาม
เป็นการผสมผสานระหว่างศิลปะอินเดียและจีนที่มีลักษณะเป็นมนุษย์มากกว่าเทพเจ้า
นอกจากนี้มีการปั้นรูปพระโพธิสัตว์กวนอิม
- สมัยราชวงศ์เหม็ง
เครื่องเคลือบได้พัฒนาจนกลายเป็นสินค้าออก คือ เครื่องลายครามและลายสีแดง
ถึงราชวงศ์ชิง เครื่องเคลือบจะนิยมสีสันสดใส เช่น เขียว แดง ชมพู
- สถาปัตยกรรม
- กำแพงเมืองจีน
สร้างในสมัยราชวงศ์จิ๋น เพื่อป้องกันการรุกรานของมองโกล
- เมืองปักกิ่ง
สร้างในสมัยราชวงศ์หงวน โดยกุบไลข่าน
ซึ่งได้รับการยกย่องทางด้านการวางผังเมือง
ส่วนพระราชวังปักกิ่งสร้างในสมัยราชวงศ์เหม็ง
- พระราชวังฤดูร้อน
สร้างในสมัยราชวงศ์เช็ง โดยพระนางซูสีไทเฮา
ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างยุโรปและจีนโบราณ
- วรรณกรรม
- สามก๊ก สันนิษฐานว่าเขียนในคริสต์ศตวรรษที่ 14 เป็นเรื่องราวของความแตกแยกในจีนตั้งแต่ปลายสมัยราชวงศจิ๋นจนถึงราชวงศ์ฮั่น
- ซ้องกั๋ง เป็นเรื่องประท้วงสังคม
เรื่องราวความทุกข์ของผู้คนในมือชนชั้นผู้ปกครอง สะท้อนความทุกข์ของชาวจีนภายใต้การปกครองของพวกมองโกล
- ไซอิ๋ว เป็นเรื่องราวการเดินทางไปนำพระสูตรจากสวรรค์ทางตะวันตกมายังประเทศจีน
- จินผิงเหมย หรือดอกบัวทอง แต่งขึ้นในราวคริสต์ศตวรรษที่ 16-17 เป็นนิยายเกี่ยวกับสังคมและชีวิตครอบครัว
เป็นเรื่องของชีวิตที่ร่ำรวย มีอำนาจขึ้นมาด้วยเล่ห์เหลี่ยม
แต่ด้วยการทำชั่วและผิดศีลธรรมในที่สุดต้องด้รับกรรม
- หงโหลวเมิ่ง
หรือ ความฝันในหอแดง เด่นที่สุดในคริสต์ศตวรรษที่ 18 เรื่องราวเต็มไปด้วยการแก่งแย่งชิงดี
อิจฉาริษยากัน
ผู้อ่านจะรู้สึกเศร้าสลดต่อชะตาชีวิตของพระเอกนางเอกเนื้อเรื่องสะท้อนให้เห็นสังคมศักดินาของจีนที่กำลังเสื่อมโทรมก่อนการเปลี่ยนแปลงสังคมเข้าสู่ยุคใหม่ บันทึกประวัติศาสตร์ ของ
สื่อหม่าเฉียน
|
|
การถ่ายทอดอารยธรรมจีนสู่ดินแดนต่างๆ
|
อารยธรรมจีนแผ่ขยายขอบข่ายออกไปอย่างกว้างขวางทั้งในเอเชียและยุโรป
อันเป็นผลมาจากการติดต่อทางการทูต การค้า การศึกษา ตลอดจนการเผยแผ่ศาสนา อย่างไรก็ตามลักษณะการถ่ายทอดแตกต่างกันออกไป
ดินแดนที่เคยตกอยู่ภายใต้การปกครองของจีนเป็นเวลานาน เช่น เกาหลี และเวียดนาม
จะได้รับอารยธรรมจีนอย่างสมบูรณ์ ทั้งในด้านวัฒนธรรม การเมือง
ขนบธรรมเนียมประเพณี การสร้างสรรค์ และการแสดงออกทางศิลปะ ทั้งนี้เพราะราชสำนักจีนจะเป็นผู้กำหนดนโยบายและบังคับให้ประเทศทั้งสองรับวัฒนธรรมจีนโดยตรง
ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อารยธรรมจีนได้รับการยอมรับในขอบเขตจำกัดมาก
ที่เห็นอย่างชัดเจนคือ การยอมรับระบบบรรณาการของจีน
ในเอเชียใต้ ประเทศที่แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับจีนอย่างใกล้ชิด คือ
อินเดีย
พระพุทธศาสนามหายานของอินเดียแพร่หลายเข้ามาในจีนจนกระทั่งเป็นศาสนาสำคัญที่ชาวจีนนับถือ
นอกจากนี้ศิลปะอินเดียยังมีอิทธิพลต่อการสร้างสรรค์ศิลปะบางอย่างของจีน เช่น
ประติมากรรมที่เป็นพระพุทธรูป
ส่วนภูมิภาคเอเชียกลางและตะวันออกกลางนั้น เนื่องจากบริเวณที่เส้นทางการค้าสานแพรไหมผ่านจึงทำหน้าที่เป็นสื่อกลางนำอารยธรรมตะวันตกและจีนมาพบกัน
อารยธรรมจีนที่เผยแพร่ไป เช่น การแพทย์ การเลี้ยงไหม กระดาษ การพิมพ์ และดินปืน
เป็นต้น ซึ่งชาวอาหรับจะนำไปเผยแพร่แก่ชาวยุโรปอีกต่อหนึ่ง
|
|
|
ให้นศ
เลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว
1. อารยธรรมจีนโบราณมีแหล่งกำเนิดอยู่บริเวณใด
ก. ลุ่มแม่น้ำฮวงโห
ข. ลุ่มแม่น้ำซีเกียง
ค. บริเวณมณฑลกวางตุ้ง
ง.
บริเวณที่ราบทางใต้ของจีน
2. ข้อใดคือลักษณะสำคัญของวัฒนธรรมหลงซาน
ก. เครื่องปั้นดินเผาลายเขียนสี
ข. เครื่องปั้นดินเผาสีม่วงขัดมัน
ค. เครื่องปั้นดินเผาลายเรขาคณิต
ง.
เครื่องปั้นดินเผาเนื้อละเอียดสีดำมันเนื้อบางและแกร่งเป็นภาชนะ
3. จีนประดิษฐ์อักษรภาพใช้ครั้งแรกในราชวงศ์ใด
ก. ราชวงศ์จิ๋น
ข. ราชวงศ์โจว
ค. ราชวงศ์ซาง
ง.
ราชวงศ์หมิง
4. เส้นทางสายใหม่มีความสำคัญอย่างไรต่อความก้าวหน้าของอารยธรรมโลก
ก. เป็นเส้นทางที่จึนนำผ้าใหม่ไปขายให้ชาวอาหรับ
ข. เป็นเส้นทางที่จึนส่งฑูตไปติดต่อกับต่างประเทศ
ค. เป็นเส้นทางที่ตัดผ่านชุมชนจีนที่มีการทอผ้าไหม
ง.
เป็นเส้นทางที่เป็นสื่อกลางนำอารยธรรมตะวันตกและจีนมาพบกัน
5. การปกครองสมบูรณาญาสิทธิราชย์ของจีนสิ้นสุดลงภายหลังจากเหตุการณ์ใด
ก. การปฏิวัติของ
ดร.ซุน ยัดเซ็น
ข. การปฏิวัติของ
เหมา เจ๋อ ตุง
ค. หยวน
ซีโข เข้ามาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี
ง.
การทำสงครามฝิ่นกับตะวันตก
6. ผลงานสถาปัตยกรรมที่สำคัญที่สุดสมัยราชวงศ์จิ๋น
คือข้อใด
ก. พระราชวังฤดูร้อน
ข. จัตตุรัสเทียนอันเหมิน
ค. กำแพงเมืองจีน
ง.
พระราชวังปักกิ่ง
7. เหตุการณ์ใดเป็นจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์ร่วมสมัยของจีน
ก. การพ่ายแพ้อังกฤษในสงครามฝิ่น
ค.ศ.1842
ข. การปฏิวัติเป็นสาธารณรัฐ
ค.ศ. 1911
ค. การสิ้นสุดราชวงศ์เซ็ง
ค.ศ. 1912
ง.
การปฏิวัตเข้าสู่ระบบสังคมนิยม
ค.ศ. 1949
8. อาณ้ติแห่งสวรรค์หรือเทียนมิ่ง
หมายความว่าอย่างไร
ก. กษัตริย์คือเทพเจ้า
ข. สวรรค์มอบสิทธิ์ขาดให้กษ้ตริย์มาปกครองมนุษย์
ค. สวรรค์มอบอาณัติให้กษัตริย์มาปกครองด้วยความยุติธรรม
ง.
สวรรค์มอบอาณัติให้กษัตริย์มาปกครองจนกว่าจะสิ้นพระชนม์
9. ข้อใดมีอิทธิพลต่อค่านิยมและวิถีการดำเนินชีวิตของผู้คนในสังคมจีนมากที่สุด
ก. ลัทธิขงจื้อ
ข. พระพุทธศาสนานิการมหายาน
ค. ความรักในการศึกษาเล่าเรียน
ง.
ความเชื้อเรื่องโอรสสวรรค์
10. ลัทธิใดของจีนที่น้นการดำเนินชีวิตที่เรียบง่ายปฏิเสธกฎเกณฑ์ต่างๆที่มนุษย์สร้างขึ้น
ก. ลัทธิขงจื้อ
ข. ลัทธิเหลาจื้อ
ค. ลัทธิเต๋า
ง.
ลัทธิฟาเฉี๋ย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น